การลงทุน กันยายน2551, SEPTEMBER’08
สภาพแวดล้อม
NIKEI
อาการไม่สู้ดีของ ศก. US,JAPAN ในสัปดาห์หน้าไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะนักลงทุนสงวนท่าทีรอดูข้อมูลศก.ของทั้ง US &JAPAN ข้อมูลของทั้ง US&JAPAN ที่จะเปิดเผยในช่วงต้นและกลางสัปดาห์นักลงทุนยังจะคอยจับตาท่าทีของ รบ. สหรัฐว่าจะรับมือสถานการณ์ แฟนนี่เม,เฟรดี้แมค ในลักษณะใด
STRAIT TIME
เกาะติดทิศทาง สหรัฐ นักลงทุนสงวนท่าทีเช่นเดียวกับตลาด Wall Street เหมือนกับตลาดอื่นๆ ยิ่งเกิดกระแสคาดการณ์ว่าตัวเลข ศก. สหรัฐที่จะเปิดเผยในช่วงปลายเดือนมีโอกาสที่จะออกมาไม่ดี นักลงทุนยิ่งคอยเพื่อรอจังหวะนอกตลาดกันยิ่งขึ้น
COMODITY MARKET
ดัชนี CRB INDEX เป็นมาตรวัดราคาComodity19 ชนิด ในตลาดล่วงหน้า ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 33 ปีหรือ 3.7 % นำโดย น้ำมันดิบ ดีด 5.62 $ มาปิดที่121.18$/bbl ที่ตลาดNYMEX CRB INDEX Rebound โดย เงิน $ อ่อนค่าลงชะลอราคาCOMODITY ที่อ่อนต่อเนื่อง 14% นักเก็งกำไรเริ่มขยับกลับมาเก็งกำไรอีกหลังปล่อยราคาร่วงลงมา โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ ความต้องการจากจีน เป็นปัจจัยสำคัญทำให้ Comodity ในตลาดปรับตัวสูงขึ้น ล่าสุดราคา น้ำมันดิบ ดูไบ งวดส่งมอบเดือน ตค.ที่สิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้นไปที่121.64 $/bbl จากความกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่าง Russia กับ Gorgia
กลยุทธ์การลงทุน
หาจังหวะการลงทุนเมื่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะ น้ำมัน เหล็ก ทองคำ เท่ากับว่าต้นทุนในอุตสาหกรรมปรับลดลงด้วยขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ การเลือกลงทุนในระยะสั้นๆ หากดูจากอัตราผลตอบแทนเงินปันผลทั้งตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 5% โดย หุ้นกลุ่มหลักที่ปันผลสูงอยู่ในกลุ่ม อาหาร ยานยนต์ และหุ้นขนาดใหญ่บางตัว ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ เพราะนักลงทุนเทขายหุ้นเหล่านี้ ออกโดยไม่ดูปัจจัยพื้นฐาน ทำให้ราคาหุ้นถูกขณะที่ปันผลสูง
หุ้นหลายตัวถ้าศึกษาปัจจัยพื้นฐานให้ดีจะเห็นว่าราคาถูกมาก แต่ต้องทนปัจจัยลบที่จะเข้ามากระทบในระยะสั้นๆให้ได้ โดยที่การลงทุนควรเลือกบริษัทที่มีผู้บริหารที่กล้าตัดลดต้นทุนเพื่อรักษาส่วนต่างกำไรเอาไว้(CUT COST) รวมทั้งบริษัทที่สามารถส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นให้ผู้บริโภค เช่น หุ้นกลุ่มพาณิชย์และกลุ่มโรงพยาบาล โดยพยายามเก็บหุ้นเข้าพอร์ทลงทุนดังนี้
BANK BBL,SCB,KBANK 35%
ENERGY PTTEP,BANPU 20%
ICT DTAC,ADVANC 15%
PROPERTY QH,CPN 15%
COMMERCE CPALL 5%
HOSPITAL BH 5%
HOTEL MINT 5%